พัฒนาการที่สำคัญของบริษัทฯ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา มีดังนี้

2566
2565
2564
2563
2562
2561
2560
2559
2558
2566
  • การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 วันที่ 21 เมษายน 2566 บริษัทได้รับการประเมิน 100 คะแนนเต็ม หรือ ระดับดีเยี่ยม จากโครงการ ‘ประเมินคุณภาพ การจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 หรือ AGM Checklist’จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
  • 31 ตุลาคม 2566 ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการ (CG Rating) ในระดับ 5 ดาว หรือระดับ “ดีเลิศ” จากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ที่จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • 6 พฤศจิกายน 2566 ได้รับการประเมินเป็นหุ้นยั่งยืน หรือ SET ESG Ratings ในระดับ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่ยึดหลักการให้บริการที่เป็นธรรม เน้นความโปร่งใสและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
  • ได้รับรางวัลสำนักงานสีเขียวระดับประเทศ (Green Office) ประจำปี 2566 โดยผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับ “ดีมาก” ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่พร้อมมุ่งสู่การเป็นสำนักงานต้นแบบในระดับสากลในฐานะองค์กรธุรกิจที่ดำเนินงานควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน
  • รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานระดับจังหวัด ประจำปี 2566
  • ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัท มีสาขารวม 852 สาขา ใน 6 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ 194 สาขา ภาคกลาง 192 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 305 สาขา ภาคตะวันตก 72 สาขา ภาคใต้ 40 สาขา ภาคตะวันออก 49 สาขา
2565
  • การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 วันที่ 20 เมษายน 2565 บริษัทได้รับการประเมิน 100 คะแนนเต็ม หรือ ระดับดีเยี่ยม จากโครงการ ‘ประเมินคุณภาพ การจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 หรือ AGM Checklist’ จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
  • 3 สิงหาคม 2565 บริษัท ได้รับรางวัล Best Hire Purchase Company for Second-Hands Cars จากนิตยสาร International Finance Magazine ของประเทศอังกฤษ
  • 27 ตุลาคม 2565 ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการ (CG Rating) ในระดับ 5 ดาว หรือระดับ “ดีเลิศ” จากการการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ที่จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัท มีสาขารวม 638 สาขา ใน 6 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ 173 สาขา ภาคกลาง 157 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 219 สาขา ภาคตะวันตก 35 สาขา ภาคใต้ 23 สาขา และภาคตะวันออก 31 สาขา
2564
  • ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 บริษัทฯ มีสาขารวม 451 สาขา ใน 6 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ 171 สาขา ภาคกลาง 131 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 122 สาขา ภาคตะวันตก 21 สาขา ภาคใต้ 3 สาขา และภาคตะวันออก 3 สาขา
  • บริษัทฯ ได้รับการรับรองจากสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ให้เป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) โดยการรับรองดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564
  • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 ของบริษัทฯ มีมติ ดังนี้
    • อนุมัติการแปรสภาพบริษัทจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท เฮงลิสซิ่ง จำกัด เป็นบริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564
    • เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท จากเดิมหุ้นละ 5.0 บาท เป็นหุ้นละ 1.0 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัท เพิ่มขึ้นจาก 601,832,540 หุ้น เป็น 3,009,162,700 หุ้น
    • เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 800,837,300 บาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 3,009,162,700 บาท เป็น 3,810,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 800,837,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.0 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
  • ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2564 หุ้นของบริษัท ได้รับอนุญาตให้เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นการทั่วไปจำนวน 800,837,300 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.95 บาท ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ย่อ “HENG”
2563
  • เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 106 สาขา ใน 6 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ 56 สาขา ภาคกลาง 23 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 22 สาขา ภาคใต้ 3 สาขา ภาคตะวันออก 1 สาขา และภาคตะวันตก 1 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขาที่ให้บริการทั้งสิ้น 402 สาขา โดยเป็นการขยายการให้บริการสินเชื่อในภาคตะวันออกและภาคใต้เป็นปีแรก
  • เปิดดำเนินการศูนย์ประมูลรถจำนวน 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแพร่ และจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจัดประมูลรถในเขตภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้บริษัทฯ มีศูนย์ประมูลรถทั้งสิ้น 7 แห่ง
  • ขยายการให้บริการสินเชื่อประเภทสินเชื่อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
2562
  • บริษัทฯ ได้รับหนังสืออนุญาตจากกระทรวงการคลัง ให้ประกอบธุรกิจ
    • สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562
    • สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2562
  • บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
  • เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 5 สาขา ใน 2 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 สาขา และภาคกลาง 1 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขาที่ให้บริการทั้งสิ้น 296 สาขา (ปิดสาขาเดิม 3 สาขา)
  • เปิดดำเนินการศูนย์ประมูลรถจำนวน 4 แห่ง ในจังหวัดเชียงราย จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจัดประมูลรถในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2561
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,710.0 ล้านบาท เป็น 3,009.0 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 259.8 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท เพื่อใช้ขยายการให้สินเชื่อ และขยายสาขา
  • เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 65 สาขา ใน 4 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 52 สาขา ภาคตะวันตก 7 สาขา ภาคกลาง 5 สาขา ภาคเหนือ 1 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขาที่ให้บริการทั้งสิ้น 294 สาขา
  • ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล ได้แก่ ISO/IEC 27001:2013 ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ (Information Security Management System)
2560
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 305.0 ล้านบาท เป็น 1,710.0 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 281.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท เพื่อใช้ขยายการให้สินเชื่อ และขยายสาขา
  • เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 82 สาขา ใน 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง 49 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 สาขา ภาคเหนือ 13 สาขา และภาคตะวันตก 2 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขาที่ให้บริการทั้งสิ้น 229 สาขา โดยเป็นการขยายการให้บริการสินเชื่อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นปีแรก
2559
  • กลุ่มมิตรเอื้ออารีย์ และกลุ่มสินปราณี ร่วมลงทุนในบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5.0 ล้านบาท เป็น 305.0 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 60.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท เพื่อใช้ขยายการให้สินเชื่อ และขยายสาขา
  • เริ่มเปิดสาขาจำนวน 147 สาขา ใน 3 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ 103 สาขา ภาคกลาง 41 สาขา และภาคตะวันตก 3 สาขา
2558
  • กลุ่มทวีเฮง และกลุ่มพัฒนสิน ร่วมกันก่อตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2558 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5.0 ล้านบาท จำนวน 1.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท เพื่อให้บริการธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน